"สมบัติมีค่าหลบซ่อนอยู่ในซากปรักหักพัง หัวใจที่แตกสลายซ่อนสมบัติมีค่าเอาไว้"
ประโยคนี้จากนิยายเรื่อง บัญญัติสี่สิบประการแห่งรัก (The Forty Rules of Love) ของเอลีฟ ชาฟัค (Elif Shafak) นักเขียนชาวตุรกี ชวนให้ผมนึกถึงงานของตัวเองขึ้นมา
“สมบัติมีค่า” “ซากปรักหักพัง” “หัวใจที่แตกสลาย” ฟังดูไม่เห็นจะเกี่ยวข้องกับงานของนักจิตวิทยาตรงไหน ถ้าจะเกี่ยวกับงานของใคร ดูเหมือนจะเป็นงานของนักโบราณคดีมากกว่า
ใช่ครับ แต่ผมมองว่างานของนักจิตวิทยานั้นไม่ต่างจากงานของนักโบราณคดี คือเราต่างขุดค้น "สมบัติมีค่า" ที่ซ่อนอยู่ในซากปรักหักพังเหมือน ๆ กัน สิ่งที่นักโบราณคดีตามหาอาจเป็นวัตถุโบราณที่มีคุณค่าในเชิงประวัติศาสตร์ ในขณะที่นักจิตวิทยาตามหา "คุณค่า" ที่ซ่อนอยู่ในความทุกข์ของผู้คน
ในการทำงาน ผมได้เรียนรู้ว่าทุกหัวใจที่แตกสลายของผู้มาปรึกษา ซึ่งนำพาความทุกข์ทรมานมาสู่ชีวิต ไม่ว่ามันจะมีที่มาจากเรื่องใด หากเราช่วยกันขุดค้นลงไปมากพอ ภายใต้ซากปรักหักพังของหัวใจดวงนั้น เราจะได้พบความหมายบางอย่างที่ความทุกข์มอบให้ และมองเห็นความหวังที่นำทางให้ชีวิตไปต่อ
ในห้องปรึกษา หัวใจที่แตกสลายนั้นปรากฎตัวในหลากหลายรูปแบบ มันอาจหมายถึงความฝันที่พังทลายของใครบางคน หรือหมายถึงจุดจบของความสัมพันธ์ของใครอีกคน หรือหมายถึงตัวตนที่สูญหายของใครอีกคนหนึ่ง จุดร่วมของแต่ละคนคือพวกเขาไม่รู้จะทำยังไงกับซากปรักหักพังของหัวใจของตนเอง
กระบวนการปรึกษามักเริ่มต้นจากการชวนให้ผู้มาปรึกษายอมรับความจริงว่าหัวใจดวงเดิมของพวกเขาไม่เหมือนเดิมอีกไป แทนที่จะหลอกตัวเองว่าทุกอย่างยังโอเค หรือไม่ก็สิ้นหวังจนไม่รู้จะทำยังไงต่อ เมื่อยอมรับความจริงข้อแรกนี้ได้แล้ว จากนั้นจึงชวนให้เขาเดินทางต่อเพื่อสำรวจลึกลงไปซากปรักหักพังว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในนั้น
หากการทำงานร่วมกันเป็นไปด้วยดี ถึงจุดหนึ่งผู้มาปรึกษาอาจเกิดความเข้าใจว่า แม้เราไม่อาจกอบกู้หัวใจดวงเดิมที่แตกสลายไป แต่ใครกันเล่าที่บอกว่าเรามีหัวใจได้เพียงแค่ดวงเดียว ความฝันหนึ่งพังทลายลง ก็ใช่ว่าเราจะไม่มีทางมีความฝันใหม่ ความสัมพันธ์หนึ่งสิ้นสุดลง ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีโอกาสเจอความสัมพันธ์ใหม่ และตัวตนที่สูญหาย ก็อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการค้นพบตัวตนใหม่
คำถามที่ว่าเราจะสร้างหัวใจดวงใหม่ขึ้นมาได้อย่างไร ความหมายของความทุกข์และความหวังที่รออยู่คืออะไร คำตอบคงอยู่ในซากปรักหักพังที่รอให้เราขุดค้นลงไปนั่นเอง
Comentarios