อารมณ์ของเราเป็นดั่งรถไฟที่ยากจะควบคุม
คำพูดของพอล เอ็คแมน (Paul Ekman) นักจิตวิทยาผู้บุกเบิกการศึกษาเรื่องอารมณ์ ได้สะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติของอารมณ์ได้อย่างชัดเจน อารมณ์นั้นมีพลังมหาศาล หากเราไม่สามารถจัดการได้ อาจนำไปสู่ผลกระทบที่ไม่คาดคิดและสร้างความเสียหายได้ เช่นเดียวกับรถไฟที่ตกราง
อารมณ์เป็นองค์ประกอบสำคัญของประสบการณ์มนุษย์ มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อกระบวนการคิด การตัดสินใจ และพฤติกรรมของเรา งานวิจัยเชิงลึกของเอ็คแมนได้ปฏิวัติความเข้าใจของเราเกี่ยวกับอารมณ์ โดยเน้นย้ำถึงความเป็นสากลและความสำคัญของมันในแง่มุมต่าง ๆ ของการดำรงชีวิตมนุษย์
พอล เอ็คแมน เกิดในปี ค.ศ. 1934 เป็นนักจิตวิทยาชาวอเมริกันผู้มีชื่อเสียงจากงานวิจัยเกี่ยวกับอารมณ์และการแสดงออกทางสีหน้า เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาจิตวิทยาคลินิกจาก Adelphi University ในปี ค.ศ. 1958 และเริ่มต้นเส้นทางอาชีพด้วยการเป็นนักวิจัยที่ National Institute of Mental Health เขาได้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ประจำภาควิชาจิตเวชศาสตร์ที่ University of California, San Francisco ในปี ค.ศ. 1972 จนเกษียณอายุการทำงานในปี ค.ศ. 2004
พอล เอ็คแมน ได้มีส่วนร่วมในสื่อต่าง ๆ เช่น รายการสารคดี The Human Face และเป็นที่ปรึกษาให้กับซีรีส์ Lie to Me ซึ่งนำเสนองานวิจัยของเขาเกี่ยวกับการแสดงออกทางสีหน้า นอกจากนี้ เขายังร่วมมือกับ Pixar ในการสร้างภาพยนตร์ Inside Out และเขียนคู่มือสำหรับผู้ปกครองเกี่ยวกับการพูดคุยกับลูกเรื่องอารมณ์ เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุด 100 คนของโลกโดยนิตยสาร Time ในปี 2009 และเป็นหนึ่งในนักจิตวิทยาที่มีอิทธิพลที่สุดในศตวรรษที่ 21
หนึ่งในผลงานที่สำคัญที่สุดของเอ็คแมน คือการระบุอารมณ์พื้นฐาน 6 อย่างที่พบได้ในทุกวัฒนธรรมทั่วโลก ผ่านการศึกษาข้ามวัฒนธรรมอย่างละเอียด เขาได้เสนอว่าอารมณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิดและเป็นสากล โดยมีรูปแบบการแสดงออกทางสีหน้าที่เฉพาะเจาะจงซึ่งสามารถจดจำได้ในทุกวัฒนธรรม อารมณ์พื้นฐานทั้ง 6 ประกอบด้วย
ความสุข: อารมณ์เชิงบวกที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกพึงพอใจ ความสำเร็จ และความเป็นอยู่ที่ดี มักแสดงออกด้วยรอยยิ้ม มุมปากยกขึ้น และดวงตาเป็นประกาย
ความเศร้า: อารมณ์เชิงลบที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกสูญเสีย ความผิดหวัง และความสิ้นหวัง มักแสดงออกด้วยคิ้วขมวด มุมปากตก และน้ำตา
ความโกรธ: อารมณ์เชิงลบที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกไม่พอใจ ความขัดแย้ง และความเป็นปฏิปักษ์ มักแสดงออกด้วยคิ้วขมวด ตาเบิกกว้าง และริมฝีปากเม้มแน่น
ความกลัว: อารมณ์เชิงลบที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกถูกคุกคาม อันตราย และความกังวล มักแสดงออกด้วยคิ้วยกขึ้น ตาเบิกกว้าง และปากอ้า
ความรังเกียจ: อารมณ์เชิงลบที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกไม่ชอบ ไม่พอใจ และการหลีกเลี่ยง มักแสดงออกด้วยการขมวดจมูก ริมฝีปากยกขึ้น และการเบือนหน้าหนี
ความประหลาดใจ: อารมณ์ที่สามารถเป็นได้ทั้งเชิงบวกและเชิงลบ เกี่ยวข้องกับความรู้สึกประหลาดใจ ตื่นเต้น และไม่คาดคิด มักแสดงออกด้วยคิ้วยกขึ้น ตาเบิกกว้าง และปากอ้า
ในหนังสือ Emotions Revealed ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 2003 เอ็คแมนได้เจาะลึกการทำงานของอารมณ์และอิทธิพลที่มีต่อชีวิตของเรา เขาอธิบายว่าอารมณ์เป็นมากกว่าแค่ความรู้สึก อารมณ์ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา การแสดงออกทางสีหน้า และแนวโน้มที่จะดำเนินการบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเรารู้สึกกลัว ระบบประสาทอัตโนมัติจะถูกกระตุ้น ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น และกล้ามเนื้อตึงตัว นอกจากนี้ เรามีแนวโน้มที่จะแสดงสีหน้าตกใจ และเรามักจะมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เรากลัว
ในหนังสือเล่มนี้ เอ๊กแมนยังได้สำรวจบทบาทของอารมณ์ในการหลอกลวงและการตรวจจับการโกหก โดยระบุไมโครเอ็กซ์เพรสชัน (Microexpression) ซึ่งเป็นการแสดงออกทางสีหน้าที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีซึ่งสามารถเปิดเผยอารมณ์ที่แท้จริงของบุคคลได้ แม้ว่าบุคคลนั้นจะพยายามปกปิดก็ตาม เขาได้พัฒนาระบบ Facial Action Coding System (FACS) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบนใบหน้าอย่างละเอียด เพื่อระบุและตีความไมโครเอ็กซ์เพรสชันเหล่านี้
งานวิจัยของเอ็คแมนมีผลกระทบอย่างกว้างขวางในหลากหลายสาขา ดังนี้
จิตวิทยาคลินิก: การทำความเข้าใจอารมณ์พื้นฐานและการแสดงออกทางสีหน้าช่วยให้นักบำบัดสามารถประเมินและวินิจฉัยภาวะทางอารมณ์ของผู้ป่วยได้แม่นยำยิ่งขึ้น การสังเกตเห็นไมโครเอ็กซ์เพรสชันของความเศร้าในผู้ป่วยที่อ้างว่าตนเองมีความสุข อาจบ่งบอกถึงภาวะซึมเศร้าที่ซ่อนอยู่ ซึ่งนำไปสู่การวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
การบังคับใช้กฎหมาย: การฝึกอบรมเกี่ยวกับไมโครเอ็กซ์เพรสชันและเทคนิคการสัมภาษณ์ที่เอ็คแมน พัฒนาขึ้น สามารถช่วยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในการตรวจจับการโกหกและระบุผู้ต้องสงสัยที่อาจเป็นอันตราย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการสืบสวนและสอบปากคำ
การศึกษา: การทำความเข้าใจอารมณ์สามารถช่วยให้นักการศึกษาสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เชิงบวกและจัดการกับปัญหาพฤติกรรมของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรู้จักสังเกตและตอบสนองต่ออารมณ์ของนักเรียน จะช่วยให้ครูสามารถสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้และช่วยเหลือนักเรียนที่กำลังเผชิญกับปัญหาทางอารมณ์ได้
ธุรกิจ: การตระหนักถึงอารมณ์และการแสดงออกทางสีหน้าสามารถช่วยให้ผู้จัดการและผู้นำสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพนักงาน ปรับปรุงการทำงานเป็นทีม และส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี การเข้าใจว่าพนักงานกำลังรู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล จะช่วยให้ผู้จัดการสามารถให้การสนับสนุนและหาทางแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมได้ นอกจากนี้ การฝึกอบรมพนักงานให้มีความสามารถในการอ่านอารมณ์ของลูกค้า ก็สามารถนำไปสู่การบริการลูกค้าที่ดีขึ้นและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้
การศึกษาของพอล เอ็คแมน ได้ปูทางสู่ความเข้าใจอารมณ์ของมนุษย์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การระบุอารมณ์พื้นฐาน การสำรวจการแสดงออกทางสีหน้า และการศึกษาไมโครเอ็กซ์เพรสชัน ล้วนมีส่วนช่วยให้เราเข้าใจถึงพลังและความซับซ้อนของอารมณ์ ข้อค้นพบของเขายังคงมีความเกี่ยวข้องและมีคุณค่าในปัจจุบัน โดยมีการประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวางในด้านต่าง ๆ ของสังคม การศึกษาและทำความเข้าใจงานของเอ๊กแมนจะช่วยให้เราสามารถนำความรู้นี้ไปใช้เพื่อพัฒนาความสามารถในการทำความเข้าใจอารมณ์ของมนุษย์และการรับมือกับอารมณ์อย่างเหมาะสม
แหล่งข้อมูล
• DK. (2012). The Psychology Book: Big Ideas Simply Explained. DK Publishing.
• Ekman, P. (2003). Emotions revealed: Recognizing faces and feelings to improve communication and emotional life. Times Books.
• Wikipedia. (2023, August 21). Paul Ekman. In Wikipedia. Retrieved September 3, 2024, from https://en.wikipedia.org/wiki/Paul_Ekman